RACE GO

หลังผ่านด่านแรกของการ “comeback” มาลุ้นกันว่า MM93 จะทำได้ดีเพียงใด ในสัปดาห์นี้ ที่เจเรซ

น้ำตาที่ไหลของนักแข่งที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดคนหนึ่งของยุคสมัยปัจจุบัน หลั่งออกมา หลังได้บรรลุเป้าหมาย แข่งขันครบรอบการชิงชัย น่าจะบรรยายได้ว่า Marc Marquez รักและหลงไหล ในกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์นี้มากมายเพียงใด “เขากลับมาที่พิทแล้วตะโกนอย่างสะใจ พร้อมๆกับน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มไหลออกมา” นี่คือ สิ่งที่สต๊าฟของทีมเล่าถึงสิ่งเกิดขึ้นหลังจบเกมที่โปรตุเกส ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในเกมระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ต้องยอมรับว่า Marc Marquez คือหนึ่งในยอดนักแข่งของยุคปัจจุบัน เปี่ยมด้วยทักษะ ความสามารถ ที่อาจกล่าวได้ว่าเหนือกว่ากลุ่มนักแข่งรุ่นราวคราวเดียวกัน และแน่นอนว่าในแวดวงไอดอลต่างๆ ย่อมมีทั้งคนชอบและไม่ชอบคละเคล้ากันไป ตามการกระทำการแสดงออกว่าจะถูกจริตแฟนๆกลุ่มใดแค่ไหน และนี่เองคือความท้าทายที่ Marc Marquez จะต้องก้าวผ่าน จากการเป็นแค่นักแข่งที่เก่งที่สุดของยุคปัจจุบัน เพื่อก้าวไปเป็นซูเปอร์สตาร์ ที่เอาชนะใจแฟนๆทุกหมู่เหล่า และก็ต้องยอมรับว่า การขาดหายไปของ Marc Marquez นั้น ทำให้สีสันบางอย่างขาดหายไปจากสนามแข่งขัน

และสองสัปดาห์ที่ผ่านมาในเกมแรกบนแผ่นดินยุโรปที่โปรตุเกส หลายๆคนทราบแล้วว่า นั่นเป็นการคืนสังเวียนครั้งแรกในรอบกว่าแปดเดือนของ Marc Marquez  นับจากการเกิดอุบัติเหตุในเกมที่เจเรซในสเปน สรุปคร่าวๆก็คือหลังบาดเจ็บ จากนั้นก็เข้ารับการผ่าตัด ตามกระบวนการมาตรฐานที่นักแข่งระดับโลกพึงได้รับ แถมสร้างเซอร์ไพรส์ประกาศคืนสังเวียนแบบเร็วเกินคาด ที่คิดว่าไม่น่าจะมีใครที่ไหนในโลกเขาทำกัน และก็เป็นไปตามคาด เมื่อการตัดสินใจนั้นส่งผลกระทบอย่างแสนสาหัส โดยต้นเดือนสิงหาคม Marc Marqquez เข้ารับการผ่าตัดครั้งที่สอง หลังพบว่า แผ่นไททาเนี่ยมที่ใส่บริเวญแขนขวาเคลื่อน ซึ่งหนึ่งในทีมแพทย์ที่ทำการรักษาได้ออกมาบอกว่า

“สิบสามวันก่อนหน้านี้ Marc เข้ารับการผ่าตัด และวันนี้เขาก็กลับเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้ง ซึ่งในการผ่าตัดครั้งแรกนั้นทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่ไม่คาดคิดมาก่อนว่า  เกิดความเสียหายในพื้นที่ของเพลทที่ถูกแรงกดแรงเค้นจนมีความผิดปกติ ดังนั้นเราจึงทำการผ่าออกแล้วทำการยึดใหม่ และตอนนี้ตัวนักแข่งเองไม่ได้มีอาการเจ็บในบริเวณดังกล่าวแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด น่าเสียดายที่การออกแรงที่มากเกินไปก่อให้เกิดปัญหานี้ขึ้น หลังการผ่าตัด 48ชม.เราจะมาติดตามอาการและอาจจะพอสรุประยะเวลาในการฟื้นตัวได้”

และทั้งหมดก็คือเรื่องราวเมื่อกว่าแปดเดือนก่อนหน้านี้ ที่ส่งผลให้ Marc Marquez ห่างหายจากสังเวียนไปอย่างยาวนาน และในที่สุดในเกมที่โปรตุเกสก็ถึงเวลาที่ เขาจะกลับสู่สนามอีกครั้ง ครั้งแรกของการกลับมาจับรถแข่ง นับจากที่ห่างหายไปจากสังเวียน ปรากฏว่าเขาสามารถกลับมาทำเวลาได้ด้วยอันดับที่หกจากการควอลิฟาย ซึ่งคู่แข่งแต่ละคนพูดถึงการคืนสังเวียนของอดีตแชมป์โลกแปดสมัยคนนี้ว่าอย่างไรกันบ้าง แน่นอน เรามาเริ่มด้วย แชมป์โลกคนปัจจุบัน อย่าง Joan Mir ที่ต้องบอกว่า “มีอาการ” กับการที่เป็นตัวล่อเป้าในการลงสนามแต่ละครั้ง ของ Marc Marquez เรียกว่า ออกอาการชัดเจนว่าหงุดหงิดกับการโดนตามไลน์แทบจะทุกเซ็คชั่นในการฝึกซ้อม “ถ้าไม่ให้ตามแชมป์โลก คุณคิดว่าควรจะตามหลังใครล่ะ” สั้นๆได้ใจความ กับคำกล่าวตอบโต้จาก Marc เอาล่ะ กลับมาเข้าเรื่องกับ ความคิดของ Mir ที่มีคอมเม้นต์ต่อการคืนสนามในครั้งนี้ของ คู่แข่งคนสำคัญซึ่ง เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกคนปัจจุบันกล่าวว่า “ ผมไม่แปลกใจอะไรเลย เราต่างรู้ดีว่าHonda มีความพร้อมในระดับใด และเราก็รู้ดีว่าเขามีขีดความสามารถในระดับไหน เขากลับมาพร้อมกับความฟิต100% เขาทุ่มเทได้100% นั่นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะสามารถขี่ได้เร็ว เขาไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจแต่อย่างใดเลย ผมเองก็คาดไว้แล้วว่าเขาจะกลับมาได้ในระดับนี้อยู่แล้ว และผมเองก็ไม่สนใจว่าเขาเคยเป็นแชมป์ มันไม่ได้สำคัญอะไร เพราะในเวลานี้ผมคือแชมป์คนปัจจุบัน ผมก็แค่ทำให้เต็มที่ ทุ่มเท100% ตลอดเวลาที่ลงสนาม นั่นคือสิ่งที่ผมทำเสมอ ”

ขณะที่ Maverick Vinales กล่าวถึงการคืนสังเวียนของคู่แข่งแค่ว่า  “รู้สึกยินดีทุกครั้งที่ได้เห็นนักแข่งทุกคนหายบาดเจ็บกลับมาลงสนาม มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ” เช่นเดียวกับที่ Franco Morbidelli กล่าวว่า “ อะไรที่เขาแสดงออกมานั้น บอกได้ถึงความแข็งแกร่งของเขาว่ายอดเยี่ยมเพียงใด ” ขณะที่ Fabio Quartararo ก็ได้พูดถึงคู่ปรับตัวฉกาจในเส้นทางการแข่งขันว่า “ เขาดูเหมือนว่าจะกลับมาอยู่ในสภาพที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง จากสิ่งที่เขาแสดงออกมาชี้ชัดว่าเร็วขึ้นทุกครั้งที่ลงสนาม แต่เราก็เช่นเดียวกัน ที่สามารถพัฒนาเวลาในแต่ละครั้งได้ดีขึ้นที่ออกไปบนแทร็ค ผมเชื่อว่าในวันแข่งขันเขาจะสามารถกลับมาลงต่อสู้เพื่อชัยชนะได้อีกครั้ง เพราะว่าเวลานี้เขาทำเวลามาในอันดับที่หกจากการควอลิฟาย และปกติเช่นที่ผ่านมา คือ เขาสามารถที่จะทำเวลาได้ดีขึ้นทุกครั้ง อย่างไรก็ตามสำหรับผมไม่ได้กังวลอะไรมากนักเกี่ยวกับmarc เพราะว่าเราเองก็อยู่ในระดับที่มีความพร้อมมากขึ้นและมีความเร็วที่ดีขึ้นเช่นกัน ”  ส่วนทางฝั่งนักแข่งแฟคทอรี่อย่าง Jack Miller นั้นก็กล่าวถึงการคืนสนามของอดีตแชมป์โลกแปดสมัยว่า “ พวกเราต่างรู้ดีว่าทักษะของเขาดีเพียงใด วันนี้ผมคิดว่าเขาเริ่มที่จะกลับมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับที่เคยเป็นอีกครั้งแล้ว แต่เหนืออื่นใดผมรู้สึกดีที่เมื่อมองไปดูเขาในพิทแล้วมันทำให้ผมรู้สึกดี เพราะนี่คือกีฬาที่เราทุกคนรักและหลงใหลมัน ดังนั้นผมเชื่อว่าตลอดเก้าเดือนที่เขาไม่ได้จับรถแข่งเลย มันคงไม่ใช่ช่วงเวลาที่ง่ายนัก โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงการที่เขาต้องทำกายภาพเพื่อที่จะฟื้นฟูร่างการกลับมาลงสนามอีกครั้ง ดังนั้นผมเชื่อว่าเราทุกคนต่างแฮปปี้ที่เห็นเพื่อนร่วมอาชีพได้หวนกลับมาสู่กีฬาที่พวกเรารักนี้อีกครั้ง ด้วยทักษะของเขาผมเชื่อว่าจะมีส่วนกระตุ้นให้พวกเราพยายามยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกหลังจากที่เขากลับมาสมบูรณ์เต็มที่ ” และปิดท้ายด้วย Aleix Espargaro ที่พูดถึง Marc ที่กลับมาลงสังเวียนอีกครั้งหลังหายไปถึงเก้าเดือนว่า “ สำหรับผมเขาคือนักแข่งที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ด้วยทักษะอันยอดเยี่ยม เมื่อเขากลับมาลงสนามคุณจะคาดหวังอะไรกับเขาล่ะ อันดับที่ 20 เหรอ ไม่ใช่มั๊ง สำหรับผมแล้วเชื่อว่า เขาจะกลับมาเป็น Marc Marquez คนเดิมที่เราคุ้นเคยกันอีกครั้ง อย่างแน่นอน นั่นแหละ คือสิ่งที่ผมหวังกับการหวนคืนสังเวียนครั้งนี้ของเขา”

ก็คงจะทราบกันไปจากการถ่ายทอดสดเกมสนามสาม จาก Autodromo International do Algarve หรือเรียกติดปากกันว่า Porimao ที่โปรตุเกส เป็นการกลับมาคว้าแต้มสะสมแรกได้สำเร็จหลังจากทำได้ครั้งสุดท้ายเมื่อ 518 วันก่อนหน้านี้ ด้วยการคืนสังเวียนในเกมนี้หลังยืนหยัดครบ 25 รอบ ของระยะทางต่อรอบสนาม 4.592 ก.ม.โดยคว้าได้เก้าแต้มจากการทะยานผ่านเส้นชัยเป็นอันดับเจ็ดในเกมนี้ ซึ่งถือว่า บรรลุเป้าหมาย ที่ตั้งใจไว้ว่า จะต้องจบการแข่งขัน ซึ่งเขาได้กล่าวหลังจบเกมว่า “ มันเป็นความรู้สึกที่ผสมผสานหลากหลายมากตลอดทั้งสัปดาห์การแข่งขันที่นี่ มันเป็นการกลับมาลงสนามครั้งแรกของผมหลังจากหยุดพักรักษาตัวยาวนาน ดังนั้นเมื่อกลับเข้ามาในพิท ผมจึงตะเบ็งเสียงออกมาเต็มที่ ผมต้องการระบายความรู้สึกภายในออกมา ไม่ใช่เพราะความเจ็บแต่อย่างใด ผมสัมผัสได้ถึงแรงใจ การสนับสนุนจากทุกคน โดยเฉพาะครอบครัวและเพื่อน นี่คือความรู้สึกที่ผมเฝ้ารอมานาน ก็คือ การได้กลับมาทำหน้าที่นักแข่งในMotoGP อีกครั้ง นี่คือสิ่งสำคัญสำหรับผม ดังนั้นมันจึงเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก ในส่วนของเกมการแข่งขันนั้นผมเองไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมมากนัก เพราะเป้าหมายหลักคือ การฟื้นฟูความคุ้นเคย ความรู้สึกต่างๆ และเพื่อทดสอบดูว่าสภาพร่างกายของผมอยู่ในระดับใด ผมตั้งเป้าเพียงแค่ที่จะแข่งขันให้ครบรอบจนจบการแข่งขัน ผมยังคงต้องฟื้นฟูอีกมาก และยังต้องทำไปเป็นสเตป ตามแผนการณ์ฟื้นฟูร่างกายของผม ยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ที่จะกลับมาสมบูรณ์เต็มที่ ด้วยเหตุนี้ผมจึงตั้งเป้าเพียงแค่ยืนหยัดให้จบการแข่งขัน ดังนั้นไม่สำคัญว่าผลแข่งจะออกมาอย่างไร แต่การตามหลังผู้ชนะอยู่ 13 วินาที ในเกมนี้ จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเกินความคาดหวังของผมไม่น้อย และระหว่างแข่งขันในเกมนี้ผมรู้สึกดีมาก อีกทั้งตอนที่ต้องขี่คนเดียวในกลุ่มกลางๆก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับแผนการณ์ฟื้นฟูสมรรถภาพของผมด้วยเช่นกัน จนกระทั่งถึงรอบสุดท้ายของการแข่งขันผมไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าความตั้งใจที่จะผ่านเส้นชัยจนครบรอบการแข่งขันตามที่ตั้งใจไว้ นับจากนี้เราก็คงต้องมาติดตามกันว่า จะเป็นอย่างไรบ้างกับเกมนัดต่อไป ที่เจเรซ ”

 

ในวันอาทิตย์ ที่ 2 พ.ค.นี้ มาติดตามกันว่า ยอดนักแข่งแห่งยุค จะสามารถ เค้นฟอร์มสุดยอดคืนมาได้ในระดับใด “แผล” จากการผ่าตัดนั้น เยียวยาฟื้นฟูได้สมบูรณ์เต็มที่เพียงใด เรามารอลุ้นพร้อมกัน และมาปิดท้ายกันด้วย ตารางคะแนนสะสมหลังผ่านไปสามสนามแรกของฤดูกาล พร้อมกับภาพจากเกมสนามที่ผ่านมา ที่เรานำมาฝากกัน

  1. 1. Fabio Quartararo Yamaha 61 คะแนน
  2. 2. Francesco Bagnaia Ducati 46 คะแนน
  3. 3. Maverick Viñales Yamaha 41 คะแนน
  4. 4. Johann Zarco Ducati 40 คะแนน
  5. 5. Joan Mir Suzuki 38 คะแนน
  6. 6. Aleix Espargaro Aprilia 25 คะแนน
  7. 7. Alex Rins Suzuki 23 คะแนน
  8. 8. Brad Binder KTM 21 คะแนน
  9. 9. Enea Bastianini Ducati 18 คะแนน
  10. 10. Jorge Martin Ducati 17 คะแนน
  11. 11. Franco Morbidelli Yamaha 17 คะแนน
  12. 12. Jack Miller Ducati 14 คะแนน
  13. 13. Pol Espargaro Honda 11 คะแนน
  14. 14. Marc Marquez Honda 9 คะแนน
  15. 15. Alex Marquez Honda 8 คะแนน
  16. 16. Stefan Bradl Honda 7 คะแนน
  17. 17. Takaaki Nakagami Honda 6 คะแนน
  18. 18. Luca Marini Ducati 4 คะแนน
  19. 19. Valentino Rossi Yamaha 4 คะแนน
  20. 20. Miguel Oliveira KTM 4 คะแนน
  21. 21. Danilo Petrucci KTM 3 คะแนน
  22. 22. Lorenzo Savadori Aprilia 2 คะแนน
  23. 23. Iker Lecuona KTM 1คะแนน
0 %