ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า คว้าชัยเกมโมโตจีพีสนามที่ 12 ประเทศอังกฤษ ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ ยังคงครองจ่าฝูงแชมป์โลกโมโตจีพีต่อไป
ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ #20 แชมป์โลกค่ายยามาฮ่า ยังคงรั้งจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ หลังฝ่าเรซสุดเข้มข้น ที่ ซิลเวอร์สโตน ก่อนจะบิดเข้าเส้นชัยอันดับ 8 บวกแต้มเพิ่มให้กับตนเองและต้นสังกัด เปิดฉากครึ่งฤดูกาลหลัง โมโตจีพี ขณะที่ผู้ชนะตกเป็นของ ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า#63 ที่ขยับจากอันดับ 5 ขึ้นมาคว้าชัย
เข้าสู่การแข่งขันในสนามที่ 12 ศึกโมโตจีพี 2022 ยกพลดวลความเร็ว ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร โดยในรอบการควอลิฟาย โยฮัน ซาโก้ #5 ออกสตาร์ทอันดับที่ 1 เวลา 1’57.767 นาที อันดับ 2 มาเวอริค บีญาเลส #12 เวลา 1’57.865 นาที อันดับ 3 แจ็ค มิลเลอร์ #43 เวลา 1’57.931 นาที อันดับ 4 ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 จากทีมมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี เวลา 1’57.938 นาที อันดับ 5 ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #63 เวลา 1’57.961 นาที อันดับ 6 อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41 เวลา 1’57.966 นาที อันดับ 7 มาร์โก้ เบนเซ็กกี้ #72 เวลา 1’58.101 นาที อันดับ 8 เอเนีย บาสเตียนีนี่ #23 เวลา 1’58.106 นาที อันดับ 9 ฮอร์เก้ มาติน #89 เวลา 1’58.174 นาที อันดับ 10 ลูก้า มารินี่ #10 เวลา 1’58.317 นาที อันดับ 11 อเล็กซ์ รินส์ #42 เวลา 1’58.318 นาที อันดับ 12 โจน เมียร์ #36 เวลา 1’58.543 นาที โดยในรุ่นนี้มีนักแข่งลงชิงชัย 24 คน ในสนามนี้ แชมป์โลกโมโตจีพี ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่#20จะต้องเข้ารับลองแลปเพนัลตี้ด้วย ซึ่งในตลอดการซ้อมในทุกช่วง ฟาบีโอ กสาร์ตาราโร่ ได้ทำการซ้อมเข้าลองแลปเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้ได้มากที่สุด
เกมการชิงชัย 20 รอบสนามรวมระยะทาง 118 กิโลเมตร เมื่อสัญญาณไฟแดงดับลงรถแข่งทั้ง 24 คันพุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ท ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ที่ออกสตาร์ทในแถวที่สองสามารถพุ่งทะยานขยับขึ้นมาลุ้นการขึ้นไปเป็นผู้นำ แต่เมื่อผ่านโค้งแรกกลายเป็น โยฮัน ซาโก้#5ที่สามารถชิงจังหวะได้ดีกว่าขยับขึ้นไปนำตามด้วย ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20, แจ็ค มิลเลอร์ #43, ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #63 ทั้งสี่คันต่างพยายามช่วงชิงจังหวะเพื่อขยับขึ้นมาเป็นผู้นำ โดยโยฮัน ซาโก้ #5 พยายามหนีการไล่ติดตามของฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่#20 ที่พยายามแซงแต่แชมป์โลกคนปัจจุบันก็ทำได้แค่เกาะติดให้มากที่สุด จนมาถึงรอบที่ 4 ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ก็วิ่งเข้าลองแลปเพนัลตี้ ก่อนออกมาอยู่ในอันดับที่ 5 ซึ่งถือว่าเสียตำแหน่งไปเพียง 3 ตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งก็พอมีลุ้นต่อการไล่อันดับคืนมา แต่เกมในกลุ่มหน้าที่เปิดการดวลคันเร่งอย่างดุเดือด โยฮัน ซาโก้#5ที่พยายามหนีการไล่ติดตามก็ไปพลาดล้มลง ทำให้ผู้นำเปลี่ยนมือมาเป็น แจ็ค มิลเลอร์ #43 ตามด้วย อเล็กซ์ รินส์ #42, ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #63, ฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20, มาเวอริค บีญาเลส #12, ฮอร์เก้ มาติน #89, อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41 ในรอบที่ 6 อเล็กซ์ รินส์#42 ขยับแซง แจ็ค มิเลอร์ #43 ขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงแต่รินส์นำไปได้เพียงไม่กี่รอบก็โดน ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า#63 ขยับแซงขึ้นไป
ส่วนฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 หลังออกจากการรับโทษลองแล็ปแล้วก็พยายามเร่งจังหวะเพื่อช่วงชิงตำแหน่งคืนกลับมาแต่ด้วยการเลือกใช้ยางหน้าแบบซอล์ฟและยางหลังแบบมีเดี่ยม ทำให้ต้องแบกรับแรงกดดันเมื่อคู่แข่งด้านหน้าเปิดเกมชิงตำแหน่งกันอย่างดุเดือด ทำให้ต้องเร่งจังหวะการขับขี่มากขึ้น ยังผลให้ยางหลังเกิดอาการมายึดเกาะเท่าที่ควร ทำให้ต้องคอยประคองตำแหน่งของตนเอง แม้ช่วงท้ายๆจะโดนคู่แข่งขยับแซงแต่ก็สามารถทะยานเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 8
ขณะที่ผู้ชนะในเกมนี้ตกเป็นของ ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #63 ที่ชนะเป็นครั้งที่ 4 ของฤดูกาลนี้ พร้อมทำเวลา 40’10.260 นาที อันดับ 2 มาเวอริค บีญาเลส#12 เวลา 40’10,686 นาที อันดับ 3 แจ็ค มิลเลอร์ #43 เวลา 40’10.874 นาที อันดับ 4 อาเนีย บาสเตียนีนี่ #23 เวลา 40’11.911 นาที อันดับ 5 ฮอร์เก้ มาติน #89 เวลา 40’12.010 นาที
ทางด้านคะแนนสะสมแชมป์โลกโมโตจีพีที่ผ่านการชิงชัยไป 12 สนามฟาบีโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ยังคงครองผู้นำแต้มสะสมไว้อย่างต่อเนื่อง โดยมีคะแนนอยู่ที่ 180 คะแนน อันดับ 2 อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41 มี 158 คะแนน อันดับ 3 ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #63 มี 131 คะแนน อันดับ 4 อาเนีย บาสเตียนีนี่ #23 มี 118 คะแนน อันดับ 5 โยฮัน ซาโก้ #5 มี 114 คะแนน
