ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า คว้าชัยทั้ง สปริ้นซ์และฟูลเรซ เก็บ 37 แต้มเต็ม ศึกโมโตจีพี 2023สนามที่ 1 ที่โปรตุเกส
ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า#1 แชมป์โลกMotoGPคนปัจจุบัน โชว์ฟอร์มการขับขี่สมศักดิศรี เก็บแต้มสะสมรวม 37 คะแนนเต็มจากรอบสปริ๊นซ์และรอบเรซ ในเกมMotoGP สนามแรกที่โปรตุเกส
เกมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกในรายการ MotoGP2023 ได้เข้าสู่ฤดูกาลการแข่งขันสนามแรกโดยทำการแข่งขันที่สนามอัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศโปรตุเกส ในรายการโปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ ซึ่งจะเป็นปีแรกที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการซ้อม จับเวลา รวมถึงการแข่งขันใหม่ โดยเพิ่มรอบการแข่งขันแบบ Sprint ขึ้นมาในวันเสาร์ และในวันอาทิตย์จะเป็นการแข่งขันในรอบเรซปกติ ซึ่งจะมีขึ้นในเฉพาะรุ่นMotoGP แต่ก็ยังสะท้อนผลกระทบไปยังการซ้อมในรุ่นMoto2 และ Moto3 ด้วย โดยการซ้อมในวันแรกของทุกรุ่นจะเป็นการทดสอบเวลาในการซ้อมครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 ของทุกรุ่นเพื่อหารถแข่งเข้าสู่รอบการควอลิฟายใน Q1 และ Q2 ก่อนที่ในรุ่นMotoGP จะเป็นรอบ Sprint ในช่วงเย็นวันเสาร์ และในวันอาทิตย์ก็จะเป็นรอบการแข่งขันปกติทั้งสามรุ่น
สำหรับการควอลิฟายในรุ่นMotoGP นั้น ผู้ที่คว้าโพล โพซิชั่นได้แก่ มาร์ค มาเกรซ #93 ทีมRepsol Honda Team เวลา 1’37.226 นาที อันดับ 2 ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #1 ทีมDucati Lenovo Team เวลา 1’37.290 นาที อันดับ 3 ฮอร์เก้ มาร์ติน #89 ทีมPrima Pramac Racing เวลา1’37.454 นาที อันดับ 4 มิเกล โอลิเวียร่า #88 ทีมCryptoDATA RNF MotoGP Team เวลา 1’37.521 นาที อันดับ 5 แจ็ค มิลเลอร์ #43 ทีมRed Bull KTM Factory Racing เวลา 1’37.549 นาที อันดับ 6 เอเนีย บาสเตียนีนี่ #23 ทีม Ducati Lenovo Team เวลา 1’37.584 นาที อันดับ 7 มาเวอริค บีญาเลส #12 ทีม Aprilia Racing เวลา 1’37.598 นาที อันดับ 8 มาร์โก้ เบนเชกกี้#72 ทีม Mooney VR46 Racing Team เวลา 1’37.616 นาที อันดับ 9 ลูก้า มารินี่ #10 ทีม Mooney VR46 Racing Team เวลา 1’37.622 นาที อันดับ 10 โยฮัน ซาโก้ #5 ทีมPrima Pramac Racing เวลา1’37.880 นาที อันดับ 11 ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ #20 ทีม Monster Energy Yamaha MotoGP เวลา 1’37.920 นาที อันดับ 12 อเล็กซิส เอสปากาโร่ #41 ทีม Aprilia Racing เวลา 1’38.136 นาที โดยในรุ่นนี้มีนักแข่งลงชิงชัย 21 คน ขณะที่โพล เอสปากาโร่ #44 จากทีม GASGAS Factory Racing Tech3 ประสบอุบัติเหตุในรอบการซ้อมครั้งที่ 2 ทำให้ต้องนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน
เกมการชิงชัยแรก เริ่มด้วยรอบ Sprint ที่ทำการแข่งขัน 12 รอบสนามรวมระยะทาง 55.104 กิโลเมตร เกมออกสตาร์ท มาร์ค มาเกรซ#93 เริ่มต้นเกมได้ดีขยับขึ้นนำแต่โดย ฮอร์เก้ มาร์ติน #89 และ ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #1 ขยับแซงขึ้นไป และ ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #1 ก็ขยับแซง ฮอร์เก้ มาร์ติน#89 ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงเมื่อผ่านรอบแรก จากนั้นก็เป็นการดวลชิงตำแหน่งอย่างดุเดือดระหว่าง ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #1, ฮอร์เก้ มาร์ติน #89 โดยทั้งคู่เริ่มขยับทิ้งห่างจากกลุ่มหลังแต่ก็มี แจ็ค มิลเลอร์ #43 ที่สอดแทรกขึ้นมาลุ้นโพเดี้ยมอีกคนรวมถึงมาร์ค มาเกรซ#93 ที่รอจังหวะอยู่ด้านหลัง เกมชิงตำแหน่งและหาจังหวะกันอย่างดุเดือด แจ็ค มิลเลอร์#43 ขยับขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแต่ก็โดนฮอร์เก้ มาร์ติน #89 และ ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #1 ขยับแซงขึ้นไป จนในช่วงท้ายทั้ง ฮอร์เก้ มาร์ติน #89 และ ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #1 เปิดเกมดวลกันอย่างดุเดือด แลเมื่อครบ 12 รอบสนาม ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #1 อาศัยความเก๋าและดีกรีแชมป์โลก ขยับแซงฮอร์เก้ มาร์ติน #89 ขึ้นไปทะยานผ่านธงตราหมากรุก ทำให้ ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า #1 คว้าชัยชนะในรอบSprint ไปครอง อันดับ 2 ฮอร์เก้ มาร์ติน #89 อันดับ 3 มาร์ค มาเกรซ #93 อันดับ 4 แจ็ค มิลเลอร์ #43 อันดับ 5 มาเวอริค บีญาเลส #12 อันดับ 6 อเล็กซิส เอสปากาโร่#41 อันดับ 7 มิเกล โอลิเวียร่า #88 อันดับ 8 โยฮัน ซาโก้ #5 และอันดับ 9 อเล็กซ์ มาเกรซ#72
รอบการแข่งขันที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ ที่ทำการชิงชัย 25 รอบสนามรวมระยะทาง 114.8 กิโลเมตร ทันทีที่การแข่งขันเริ่มขึ้น ฮอร์เก้ มาร์ติน #89 ออกสตาร์ทได้ดีขยับขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในทันทีตามด้วย มิเกล โอลิเวียร่า#88, ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า#1, มาร์ค มาเกรซ#93 เกมชิงความเป็นผู้นำทวีความดุเดือด มิเกล โอลิเวียร่า #88 ขยับแซงฮอร์เก้ มาร์ติน#89 ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง แต่ผ่านเข้ารอบสอง ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า#1 ที่เริ่มตั้งหลักได้ขยับแซงขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง แต่ก็ยังโดนมิเกล โอลิเวียร่า #88, ฮอร์เก้ มาร์ติน#89, มาร์ค มาเกรซ#93 กดดันอย่างหนัก และในรอบนี้มาร์ค มาเกรซ#93 ที่เร่งจังหวะขยับแซงแต่ไปทำให้ไปเฉียวโดน ฮอร์เก้ มาร์ติน#89 และพุ่งเข้าชน มิเกล โอลิเวียร่า #88 ยังผลให้มาร์ค มาเกรซ#93 และ มิเกล โอลิเวียร่า #88 ล้มลง ส่วนฮอร์เก้ มาร์ติน#89 เสียจังหวะจนหล่นไปอยู่เกือบท้ายกลุ่ม จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า#1 ขยับทิ้งห่างจากกลุ่มหลังไปในทันที 0.737 วินาที ตามด้วย มาเวอริค บีญาเลส#12, แจ็ค มิลเลอร์ #43, มาร์โก้ เบนเชกกี้#72, แบรด บินเดอร์ #33, อเล็กซ์ มาเกรซ #73, โยฮัน ซาโก้ #5 ผ่านเข้ารอบ 6 มาร์โก้ เบนเชกกี้#72 ขยับแซง แจ็ค มิเลอร์#43 ขึ้นมา ขณะที่ผู้นำยังคงเป็นของ ฟรังก์เชกโก้ บันนาญ่า #1 ที่รักษาความเร็วและเวลาต่อรอบได้ดี จนทำยานผ่านธงตราหมากรุกคว้าชัยชนะไปครอง อันดับ 2 มาเวอริค บีญาเลส#12 อันดับ 3 มาร์โก้ เบนเชกกี้ #72 อันดับ 4 โยฮัน ซาโก้ #5 อันดับ 5 อเล็กซ์ มาเกรซ#73 อันดับ 6 แบรด บินเดอร์ #33 อันดับ7 แจ็ค มิลเลอร์ #43 อันดับ 8 ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ #20 อันดับ 9 อเล็กศิส เอสปากาโร่ #41 อันดับ 10 อเล็กซ์ รินส์ #42 อันดับ 11 โจน เมียร์ #36 อันดับ 12 ทากะอะกิ นางะกะมิ #30 อันดับ 13 ออกูสโต เฟอร์นันเดรส #37 และอันดับ 14 ฟรังก์โก้ มอร์บิเดลลี่ #21
หลังจบเกมการแข่งขันได้มีบทลงโทษกรณี มาร์ค มาเกรซ ในกรณีไปพุ่งชน มิเกล โอลิเวียร่า ซึ่งจากการพิจารณาบทลงโทษล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 28 มีนาคมนั้น ได้ยืนคำตัดสินการพิจารณาโทษ Double Long Lap Penalty ในการลงทำการแข่งขันของมาร์ค มาเกรซ ในสนามที่ลงทำการแข่งขัน จากเดิมที่พิจารณาโทษที่สนามในประเทศอาร์เจนติน่า แต่เมื่อมาร์ค มาเกรซได้รับบาดเจ็บและจะไม่ได้ลงแข่งขัน ทำให้มีการพิจารณาการลงโทษใหม่ ให้มาร์ค มาเกรซ รับโทษในสนามถัดไปที่ลงทำการแข่งขันซึ่งก็คือในสนามออสติน ประเทศสหรัฐอเมริกา
ทางด้านคะแนนสะสมแชมป์โลกโมโตจีพีหลังจบสนามที่ 1 อันดับ 1 ฟรังก์เชสโก้ บันนาญ่า มี 37 คะแนน อันดับ 2 มาเวอริค บีญาเลส 25 คะแนน อันดับ 3 มาร์โก้ เบนเชกกี้ 16 คะแนน อันดับ 4 โยฮัน ซาโก้ 15 คะแนน อันดับ 5 แจ็ค มิลเลอร์ 15 คะแนน อันดับ 6 อเล็กซ์ มาเกรซ 12 คะแนน อันดับ 7 อเล็กซิส เอสปากาโร่ 11 คะแนน อันดับ 8 แบรด บินเดอร์ 10 คะแนน อันดับ 9 ฮอร์เก้ มาร์ติน 9 คะแนน อันดับ 10 ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ 8 คะแนน
